เขาคือเพลิงที่มีแต่ความอาฆาตมาดร้ายให้กับดำรงวิกุล อยากเผาไหม้ให้แหลกเป็นจุณ ส่วนเธอคือไฟที่โกรธแค้นคอยต่อกรกับเขาเพื่อเรียกร้องเอาความเป็นธรรม ความร้อนจึงระอุไปทุกอณู
ขาแข็งแรงถีบประตูปิดลงเสียงดังปัง กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันให้กับความเจ็บแสบกับน้ำมือเล็กที่ไม่ยอมลดละข่วนและทุบตีเขาไปตามหลังหนา เมื่อพามาถึงเตียงเขาก็เหวี่ยงหญิงสาวลงไปยังที่นอนอย่างไม่ปราณี
ด้วยสัณชาตญาณอโณทัยขยับตัวถอยกรูดไปติดหัวเตียงชันเข่าขึ้นสูงพยายามทำตัวให้ลีบเล็กมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางทำได้มากกว่านี้อีกแล้ว มือทั้งสองกุมคอเสื้อตัวเองไว้มั่นจนมันยับไม่มีชิ้นดี ดวงตาแข็งกร้าวยังคงส่งผ่านมาให้กับเขาเฉกเช่นเดิมและดูเหมือนว่ามันยิ่งเพิ่มทวีคูณมากขึ้น
“ทำไมหยุดดิ้นไปล่ะ” กฤษณะมองคนร่างที่สั่นเทิ้มอยู่บนเตียง ที่ไม่ยอมปริปากอะไรออกมา ชายหนุ่มกลืนก้อนหนืดๆ ลงคอไปสองสามอึกด้วยความยากลำบาก อดนึกถึงรูปร่างที่เขามองเห็นข้างสระครั้งแรกไม่ได้ น่าเสียดายทำไมต้องเป็นดำรงวิกุลด้วยนะ ถ้าหากว่าหล่อนเป็นคนอื่นตอนนี้เขาคงได้กระโดดลงไปเคล้าคลึงอยู่บนเตียงแล้วอย่างแน่นอน แล้วชายหนุ่มก็ยกมุมปากยิ้มเหยียดหยันส่งมาให้
“หรือว่าร่านได้ที่แล้ว แค่สัมผัสเตียงนอนถึงกับหยุดดิ้นคงดีใจคิดว่าผมจะจับทำเมียละสิ!” เขากล่าวต่ออย่างหยาบคาย
หญิงสาวกัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บ น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้